วาระเพื่อสันติภาพ: การทบทวนข้อเสนอขององค์กรภาคประชาสังคมต่อการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้

       โครงการ “วาระเพื่อสันติภาพ: การทบทวนข้อเสนอขององค์กรภาคประชาสังคมต่อการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้” ได้ทบทวนและวิเคราะห์ข้อเสนอแนะจากองค์กรหรือเครือข่ายภาคประชาสังคมจำนวน 14 แห่งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่การเริ่มต้นการพูดคุยสันติภาพอย่างเป็นทางการในปี 2556 โดยมีวัตถุุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและสนับสนุุน การแสวงหาทางออกทางการเมืองในกระบวนการสร้างสันติภาพผ่านข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายกลุ่ม โดยได้มีการนำเสนอร่างรายงานต่อองค์กรภาคประชาสังคมและนักวิชาการที่ทำงานด้านสันติภาพด้วย

ข้อเสนอแนะในรายงานฉบับนี้สามารถสรุปเป็นสองส่วนหลักดังนี้:

Image

1. ข้อเสนอสำหรับกระบวนการพูดคุยสันติภาพ

  • การปรับปรุงกระบวนการพูดคุยสันติภาพ: โดยมีข้อเสนอแนะถึงการปรับยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาชายแดนใต้โดยให้การพูดคุยสันติภาพ
    เป็นแกนกลางในการแก้ไขความขัดแย้ง ส่งเสริมบทบาทของพลเรือนที่ไม่ใช่ข้าราชการเป็นตัวแทนในคณะพูดคุยสันติภาพ การลดความรุนแรง
    และสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางกายภาพ สร้างความเป็นเอกภาพของภาครัฐต่อแนวทางแก้ไขปัญหา และจัดตั้งกลไกการประสานงาน เช่น สำนัก
    เลขานุการเพื่อสันติภาพชายแดนใต้

  • การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน: สนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการสันติภาพผ่านกลไกการปรึกษาหารือ
    หลายระดับ การให้มีมุมมองเพศสภาพและการคำนึงถึงความหลากหลายในกระบวนการสันติภาพและการหนุนเสริมการเรียนรู้และพัฒน
    ทักษะในการสร้างสันติภาพสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่าง ๆ

  • การรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น: สร้างพื้นที่ปลอดภัยและรับประกันความปลอดภัยสำหรับการแสดงความคิดเห็นอย่างแท้จริง
    ในกระบวนการปรึกษาหารือ

  • การพัฒนาการสื่อสารเรื่องกระบวนการสันติภาพต่อสาธารณะ: พัฒนายุทธศาสตร์และประสิทธิภาพของสื่อสารมวลชนเพื่อสันติภาพ พัฒนา
    เครือข่ายคนทำงานด้านสื่อสาธารณะเกี่ยวกับสันติภาพ และคณะพูดคุยควรสื่อสารความคืบหน้าของการพูดคุยสันติภาพต่อสาธารณะอย่าง
    สม่ำเสมอ

Image
Image

2. ข้อเสนอเชิงสารัตถะในแก้ไขปัญหาความขัดแย้งรุนแรงและการสร้างสันติภาพ

  • การแสวงหารูปแบบการปกครองที่เหมาะสม: ศึกษารูปแบบการปกครองต่าง ๆรวมถึงข้อเสนอที่ผ่านมาโดยภาควิชาการและภาคประชาสังคมเพื่อแสวงหาแนวทางการปกครองที่เหมาะสม

  • การยอมรับอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม: เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีอัตลักษณ์ต่างกันสามารถแสดงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของตนได้อย่างเสรีบนพื้นฐานของการยอมรับและเข้าใจซึ่งกันและกัน

  • สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย: ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษ เช่น กฎอัยการศึก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและอำนวยความสะดวกในกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้เสียหาย

  • การพัฒนาเศรษฐกิจและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ: ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงทางอาหาร

  • การศึกษา: พัฒนาคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมคุณค่าพหุวัฒนธรรมในสถานศึกษาและสร้างความปลอดภัยในโรงเรียน

  • การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน: แก้ปัญหายาเสพติดและส่งเสริมระบบการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่

จากข้อเสนอแนะที่สะท้อนความหลากหลายทางอุดมการณ์และข้อกังวลจากองค์กรและเครือข่ายภาคประชาสังคมต่าง ๆ มีประเด็นที่เป็นจุดร่วมกันอย่างน้อย 4 ประการ โดยประเด็นจุดร่วมกัน ได้แก่ การลดความรุนแรงและการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางกายภาพ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในกระบวนการสันติภาพ การรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการพัฒนาการสื่อสารเรื่องกระบวนการสันติภาพต่อสาธารณะ ในขณะที่ ประเด็นขัดแย้งที่ยังไม่เห็นพ้องต้องกันในกลุ่มต่าง ๆ มีอย่างน้อย 3 ประการ ได้แก่ ประเด็นรูปแบบการปกครองที่เหมาะสมในฐานะแกนกลางในการแก้ปัญหาทางการเมืองต่อความขัดแย้ง ประเด็นอัตลักษณ์และพหุวัฒนธรรม และการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่

Image

ด้วยงานวิจัยนี้ได้วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อเสนอแนะที่ผ่านมาของภาคประชาสังคมเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพและกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา คณะผู้วิจัยคาดหวังว่าข้อค้นพบจากการวิจัยนี้จะสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการปรึกษาหารือสาธารณะในกระบวนการสันติภาพในอนาคต การบรรลุสันติภาพที่ยั่งยืนและมีคุณภาพในชายแดนใต้ต้องอาศัยแนวทางหลายด้านที่ครอบคลุมทั้งความมั่นคงในระยะสั้นและการแก้ปัญหาทางการเมืองในระยะยาวอย่างครอบคลุมและเสียงของประชาชนและภาคประชาสังคมเป็นสิ่งสำคัญในกระบวนการดังกล่าว

ประวัติผู้เขียน

ผศ.ดร. รุ่งรวี เฉลิมศรีภิญโญรัช
ผศ.ดร. รุ่งรวี เฉลิมศรีภิญโญรัชอาจารย์
อาจารย์ประจำสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขต หาดใหญ่) เธอจบปริญญาเอกจาก Australian National University รุ่งรวี มีความสนใจทำงานวิจัยเกี่ยวกับ สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัด ชายแดนภาคใต้ ความขัดแย้งทาง ชาติพันธุ์ กระบวนการสันติภาพ ศาสนา และความขัดแย้งในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้
รัฐวิศว์ เอื้อประชานนท์
รัฐวิศว์ เอื้อประชานนท์นักวิชาการอิสระ
นักปฏิบัติและนักวิชาการอิสระด้าน สันติภาพและสิทธิมนุษยชน ในปัจจุบัน ปัจจุบันเป็นผู้จัดการโครงการที่มูลนิธิ ความร่วมมือสันติภาพซึ่งให้การ สนับสนุนกระบวนการสันติภาพและงาน ด้านการสร้างสันติภาพต่างๆ เช่น พื้นที่ กลางสันติภาพจากคนใน (IPP) รัฐวิศว์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้าน International Peace Studies) จาก UN Mandated University for Peace ประเทศคอสตาริกา
อิมรอน ซาเหาะ
อิมรอน ซาเหาะนักเคลื่อนไหว
นักเคลื่อนไหวเพื่อสันติภาพ ปัจจุบัน ประจำที่สถานวิจัยความขัดแย้งและ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์อิมรอนจบการศึกษาระดับ ปริญญาโท สาขาวิชาความขัดแย้งและ สันติศึกษา สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
กอนีต๊ะ สะรี
กอนีต๊ะ สะรีนักเคลื่อนไหว
นักเคลื่อนไหวสันติภาพในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้/ปาตานี ปัจจุบันเป็น เจ้าหน้าที่โครงการมูลนิธิความร่วมมือ สันติภาพ เธอสำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขาความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์

เอกสารเผยแพร่

รายงานฉบับเต็ม

“วาระเพื่อสันติภาพ: การทบทวนข้อเสนอขององค์กรภาคประชาสังคมต่อการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้”